iPhone iPod iPad iTunes Mac Apple Computer Com Notebook Mobile Netbook Laptop SoftwareiPhone iPod iPad iTunes Mac Apple Computer Com Notebook Mobile Netbook Laptop SoftwareiPhone iPod iPad iTunes Mac Apple Computer Com Notebook Mobile Netbook Laptop SoftwareiPhone iPod iPad iTunes Mac Apple Computer Com Notebook Mobile Netbook Laptop SoftwareiPhone iPod iPad iTunes Mac Apple Computer Com Notebook Mobile Netbook Laptop Software

Friday, September 30, 2011

iPhone 5 Cases

iPhone 5 Cases
Case-Mate "หลุด"ภาพเคส iPhone 5 - ARIP IT News ข่าวไอที เทคโนโลยี
www.arip.co.th › News
อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวล่าสุด เว็บไซต์ของบริษัทผู้ผลิตเคสสมาร์ทโฟนที่ชื่อว่า Case-Mate ดึงหน้าเว็บแสดงภาพเคส iPhone 5 Vroom Cases ... iPhone 5 Cases

Case-Mate “หลุด“ภาพเคส iPhone 5
hitech.sanook.com › gadget › catalog › Apple
เว็บไซต์ของบริษัทผู้ผลิตเคสสมาร์ทโฟนที่ชื่อว่า Case-Mate ดึงหน้าเว็บแสดงภาพเคส iPhone 5 Vroom Cases ของทางบริษัทออกไปโดยเร็วCase-Mate ... iPhone 5 Cases



Iphone 5 cases
www.eiphone5cases.com/
eiphone5cases.com bringing new the newest iphone 5 cases out there. Join us and find you desired iphone covers. iPhone 5 Cases

iPhone 5 Cases | iPhone 5 Covers on Sale
saraoutlet.com/iphone5cases-iphone5covers.html
Apple might delay iPhone 5's launch. But, we won't delay iPhone 5 cases & covers launch! iPhone 5 Cases & iPhone 5 Covers will be ready as soon as iPhone ... iPhone 5 Cases

http://gizmodose.com/th/iphone-5-cases-continue-to-suggest-larger-thinner-design.html

Sunday, September 25, 2011

15 อย่างใน iPhone 5 ที่รออยู่

15 อย่างใน iPhone 5 ที่รออยู่
15 อย่างใน iPhone 5 ที่รออยู่ ในทุกครั้งที่ Apple ออก iPhone ตัวใหม่ เรื่องอัตราการกินไฟก็มักจะเป็นปัจจัยแรกๆที่ถูกทำการปรับปรุงให้ดีมากขึ้นทุกครั้ง โดยดูจาก iPhone 4 นั้นยังมีอัตราการสนทนาต่อเนื่องได้นานกว่า

1. iOS 5
แน่นอนว่า iOS5 ย่อมดีกว่า 4 แน่นอน ถ้า iPhone 5 ออกมาจริงในปีหน้า ระบบปฎิบัติการตัวใหม่ก็คือสิ่งที่หลายๆคนอยากให้มีเป็นอันดับต้น

2. ประหยัดไฟมากขึ้น
ในทุกครั้งที่ Apple ออก iPhone ตัวใหม่ เรื่องอัตราการกินไฟก็มักจะเป็นปัจจัยแรกๆที่ถูกทำการปรับปรุงให้ดีมากขึ้น ทุกครั้ง โดยดูจาก iPhone 4 นั้นยังมีอัตราการสนทนาต่อเนื่องได้นานกว่า iPhone 3GS มากถึง 40% ดังนั้น หวังว่าใน iPhone 5 เทคโนโลยีของแบตเตอรี่น่าจะดีขึ้น อาจจะมีความจุของแบตเตอรี่สูงขึ้นในขนาดเท่าเดิม เพราะนอกจากแบตดีขึ้นแล้ว เรื่อง CPU การทำงานที่กินไฟน้อยลงก็คงจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ระยะการใช้งานนานขึ้นด้วย

3. 3D graphics
เนื่องจาก graphics chip ได้ถูกใส่ไว้ในชิพ A4, ทำให้หลายๆคนสงสัยว่าตกลงว่า 3D graphics chip ที่อยู่ใน iPhone 4 มันคืออะไรกันแน่ แต่เท่าที่หลายฝ่ายเดาๆกันดูก็น่าจะเป็น Samsung นั่นเอง อย่างไรก็ตามแม้ว่าใน iPhone 4 จะมีการพัฒนาเรื่องกราฟฟิคมามากพอสมควร โดยสามารถแสดงผลที่ความละเอียด 960×640 pixels แต่สำหรับ iPhone 5 คาดกันว่า Apple เอาแน่กับความละเอียดหน้าจอที่ 1156×768 pixels

4. 1.5 GHz A4 processor
สำหรับ iPhone 4 นั้นได้ใช้ชิพ A4 ในการทำงาน แต่ก็ยังไม่มีใครฟันธงว่ามันความเร็วการทำงานที่ 1GHz แบบในเครื่อง iPad หรือไม่ แต่เรื่อง Speed การทำงานกับอัตราการกินไฟของ iPhone 4 ถือว่าน่าประทับใจมากทีเดียว แต่กาลเวลาเป็นสิ่งที่จะเป็นตัวบีบ Spec การทำงานของ CPU ให้พัฒนาให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น สิ่งที่คาดหวังกันไว้ว่าน่าจะได้เห็นใน iPhone รุ่นถัดไปก็คือความเร็วที่ 1.5 GHz หรือหาก สตี๊ฟ จ๊อบส์ ฮึดๆขึ้นมาอาจจะใส่ CPU ไปถึง 2 GHz

5. Better camera
กล้องระดับ 8-megapixel คือสิ่งที่คาดว่าไม่น่าพลาดที่เราอาจจะได้เห็นใน iPhone 5 เพราะแม้ว่า iPhone 4 จะพัฒนากล้องมาที่ระดับ 5 megapixels พร้อม LED flash แต่เชื่อว่าระดับความละเอียดของกล้องน่าจะต้องถูกขยับไปตามคู่แข่งขันในตลาด เพราะบางรุ่นในปี 2010 นี้ก็พัฒนาไปถึง 8 ล้านพิกเซลแล้ว

6. Flash support
ไม่รู้ไปโกรธเคืองกันมาจากไหน ไม่ว่า iPhone จะออกมากี่รุ่นก็ตามการสนับสนุนการทำงานของ Flash ก็ยังไม่มีสักที แม้ว่า Apple จะบอกว่า Flash นั้นมันกินทรัพยากรเครื่องเยอะ และเค้าเองเชื่อว่าอนาคตสิ่งที่จะมาแทน Flash นั้นมีอยู่แน่ใน HTML5 ซึ่งเชื่อว่า HTML5 มีประสิทธิภาพดีกว่า Flash มากมาย แถมยังมี้ข้อผิดพลาดน้อยกว่า (สตีฟ จอบส์ เคยว่าไว้) และเป็นระบบเปิดมากกว่าอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามสำหรับคนใช้ตาดำๆ ก็อยากบอกว่า อยากได้ๆๆๆๆๆ Flashhhhhh อยู่ดี ทุกวันนี้ iPhone เกือบจะสมบูรณ์แล้วเชียวแต่เข้าเว็บที่มีการทำงาน Flash แล้วรู้สึก โมโหทุกที

7. FaceTime ผ่าน 3G
สำหรับปัจจุบันนี้การใช้งาน Face Time จะต้องผ่านทาง WiFi เท่านั้นเป็นการพูดคุยลักษณะแบบ VOIP ซึ่งต้องหาจุดเชื่อมต่อ WiFi ในขณะใช้งาน หากในอนาคตมันจะใช้พูดคุยโดยอาศัยช่องทาง ทางระบบ 3G หรือ 4G ในอนาคตก็คงจะดีมากขึ้น แม้ว่าการใช้งานผ่านโครงข่าย Network ในปัจจุบันอาจจะเร็วไม่พอแต่ในอนาคตหากระบบต่างๆเร็วขึ้น การใช้งาน Face time ก็น่าจะได้รับการปรับปรุงรูปแบบให้ดีกว่านี้ และใช้ข้ามคุยกับแพลตฟอร์มอื่นๆได้ด้วย

8. Home screen
หน้า ตา Home Screen ของ Apple เจอกันมาหลายปี หลายๆรุ่นก็หน้าตาแบบเดียวกัน ดังนั้น สิ่งที่ iPhone 5 น่าจะมีการปรับปรุงได้แล้วก็คือเรื่องการให้ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าจอได้อย่างอิสระมากขึ้นโดยไม่ต้องอาศัยโปรแกรมใดๆ ช่วย

9. Expandable memory
สิ่งที่ฝันลมๆ แล้งๆ แต่หลายๆ ก็คงอยากให้มีใช่ไหมครับ

10. memory
64GB สิ่งที่ไม่ไกลเกินเอื้อมและคาดว่าน่าจะได้เห็นกันในรุ่นถัดไป

11. RFID
ตามข่าวลือแล้ว Apple ตอนนี้กำลังง่วนกับการพัฒนาระบบ radio-frequency identification, หรือ RFID, เพื่อจะยัดใส่ใน iPhone รุ่นถัดไป เพราะว่า RFID เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ได้ใหม่อะไรมากนัก แต่เชื่อว่ามันกำลังจะมาอยู่ในมือถือหลายๆรุ่นในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อการใช้งานที่สะดวกขึ้น เช่นการจ่ายเงินชำระค่าสินค้าต่างๆ

12. HD output
ใน ปัจจุบัน iPhone ไม่มี output 720p หรือ 1080i HD video ซึ่งเราก็หวังว่า iPhone 5 รุ่นถัดไปน่าจะมี HD output ให้มาด้วยแบบในมือถือบางรุ่นในปัจจุบัน

13. Biometric security
เรา เคยเห็นระบบ สแกนนิ้วมือบน Notebook หรือแม้แต่ HP iPaq รุ่นเก่าๆก็ยังเคยมีระบบสแกนลายนิ้วมือด้านหน้า เรื่องนี้อาจจะเกิดขึ้นใน iPhone รุ่นอนาคต แต่คงจะยังไม่น่าจะใช่ในเร็วๆนี้แน่

14. Built-in IR
อยาก ใช้ iPhone เป็นรีโมทควบคุม TV จังเลย แต่ไม่อยากต้องไปซื้ออุปกรณ์เสริมมาต่อเพิ่มให้เกะกะ ถ้า iPhone 5 มีช่องรับส่ง อินฟราเรดให้มาสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน ไม่ได้เอาไว้ส่งข้อมูลแต่อยากเอาไว้ควบคุม TV จ้าาาาา

15. Removable battery
สิ่งที่ Apple ไม่เคยทำและไม่คิดจะทำก็คือ การทำเครื่องไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือ iPod แบบถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ โดยยอมไปนั่งพัฒนาเครื่องให้กินไฟน้อยใช้ได้นานดีกว่า แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าถ้าวันหนึ่งเทคโนโลยีของแบตเตอรี่มันพัฒนามากขึ้น ทำให้บางและเล็กลง Apple อาจจะเปลี่ยนใจทำเครื่องให้สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ เพราะสาเหตุหนึ่งที่เป็นปัญหาหากทำเครื่องให้ถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ก็คือ เครื่องจะมีขนาดที่หนาขึ้นเพราะต้องเหลือพื้นที่สำหรับช่องใส่แบตเตอรี่ และฝาหลังเครื่อง

www.cnet.com

15 อย่างใน iPhone 5 ที่รออยู่ - กล้อง - มือถือ - Sanook!
http://hitech.sanook.com/15-อย่างใน-iphone-5-ที่รออยู่-927534.html
ในทุกครั้งที่ Apple ออก iPhone ตัวใหม่ เรื่องอัตราการกินไฟก็มักจะเป็นปัจจัยแรกๆที่ถูกทำการปรับปรุงให้ดีมากขึ้นทุกครั้ง โดยดูจาก iPhone 4 ...

Friday, September 23, 2011

6 เหตุผล iPad ควร Jailbreak

การ Jailbreak อย่างที่เคยบอกไปแล้วในบทความ “3 เหตุผลที่ไม่ควร Jailbreak” ก็อ่านย้อนหลังได้ จริงๆสมัยตอนที่ยังไม่ Jailbreak มีความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองระดับนึงว่า ฉันไม่ Jailbreak ฉันซื้อ Apps ถูกต้อง ในกลุ่มเพื่อนก็จะมีแก๊ง 2 แก๊ง คือกลุ่ม Jailbreak กับไม่ Jailbreak ตอนนั้นก็อ่านบทความมากมายว่า เอาไงดีกับชีวิต ก็เลยมาขอแชร์เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ

บน iOS 3.2.x นั้น ต้องบอกตามตรงว่ามันไม่ค่อยสมบุรณ์สำหรับคนไทย ด้วยเหตุภาษาไทย มันไม่มี เราก็พยายามหลอกตัวเองตอนซื้อมาว่า ไม่ใช้ ไม่เป็นไร ใช้อังกฤษก็ได้ หรือไปซื้อภาษาไทยโง่ๆมาตัวนึง $0.99 ไม่บอกชื่อนะเดี๋ยวโดนของ ที่มันกลายเป็นโปรแกรมแรกที่ผมซื้อแล้วสุดเศร้า พร้อม สุดเซง เพราะมันไม่ใช่ Keyboard มันต้องเข้าไปในโปรแกรมมัน พิมพ์ พิมพ์ พิมพ์ แล้วก็ Copy ด้วยเหตุ iOS 3.2.x มันเป็น Single-Task ก็เหมือนการออก แล้วเข้าใหม่ ก็เซงห่านไปตามๆกัน

1. อยากทดลองใช้โปรแกรมก่อนซื้อ
ต้องยอมรับว่ามีโปรแกรมมากมายที่น่าสนใจ ที่เราอยากได้ และคิดว่าจะใช้ แต่ก็มีให้เลือกเยอะ โปรแกรมสำหรับเปิด PDF ก็มีเพียบเลย โปรแกรมเปิด Word Excel ก็มีบานเลย แต่เราก็ไม่รู้อันไหนดี อันไหนไม่ดี ถามเพื่อนที่ Jailbreak มา เขาก็บอกว่า ก่อนเขา Jailbreak เขาต้องซื้อโปรแกรมหลายตัว กว่าจะรู้ว่าตัวไหนดี สุดท้ายใช้ตัวเดียว ก็ทำให้เปลืองกันไป
6 เหตุผล iPad ควร Jailbreak
2. ภาษาไทยไม่มี
ก็นี่แหละคือเหตุผลการ Jailbreak แรก เพราะชีวิตผมต้องใช้ภาษาไทย ต้องคุยกับลูกค้า ต้องคุยกับคนไทย ต้อง MSN กับคนไทย ต้องพิมพ์ไทย ต้องจดงานภาษาไทย ต้องพิมพ์โน่น พิมพ์นี่ ต้องตอบเมล์ภาษาไทย แล้วเป็นคนที่เก่งภาษาอังกฤษมากมายขนาดคุยให้ฝรั่งงงได้ด้วย ก็ยิ่งหนีภาษาไทยไม่ได้

ถามว่า Jailbreak แล้วทำไมมีภาษาไทย มือใหม่อาจจะงง คือ การ Jailbreak มันเป็นการเปิด File System ของ iPad ของเรา ดังนั้นพอเปิดแล้ว คุณ Rainbow ที่ทำภาษาไทยขายนั้นก็ได้จับของตัวเอง ใส่เข้าไปใน Keyboard Russian ก็กลายเป็นถ้าดูใน Setting ก็จะพบ Keyboard US + Russian ซะงั้น แต่ก็นั้นแหละครับ เราอยากได้ไทย นี่ ทำไงได้ ก็ทำให้คุณ Rainbow รวยไปด้วย 150 บาทต่อเครื่อง จำนวนผมว่าหลายหมื่นเครื่องได้ในไทย
สำหรับปัญหานี้ สำหรับคนใช้ iPad iOS 4.2 Beta หรือคนใช้ iPhone จะไม่ใช่ปัญหานะครับ เพราะว่าเขามีภาษาไทยแล้ว แม้จะ 3 แถวก็ตามที

3. ลอง Jailbreak ไม่เสียหาย เพราะสุดท้ายไม่ชอบ Back กลับได้
นี่คืออีกอย่างที่ผมศึกษาแล้วชอบ เพราะว่าเกิดเราไม่ชอบ เราก็แค่ Sync iTune แล้วก็ขอกลับเป็นค่าโรงงานได้ เหมือนกับว่าทาง Apple ยินดีต้อนรับการกลับตัว กลับใจ ของเราเสมอ คริคริ

4. โปรแกรมดีๆ ที่ไม่ผ่าน App Store อยู่ใน Jailbreak Version
โอ้ อันนี้เป็นสิ่งที่น่าตื่นตา ตื่นใจ หลายคนอยากได้ Multitask ก็ได้ใช้ ProSwitcher ก็ใช้กันได้ตั้งแต่ iOS 3.2.x หลายคนทำให้ iPhone ,iPad ตัวเองเป็น Wifi ให้คนอื่นใช้ได้ ก็ทำได้ หรือ แม้กระทั้ง คุย Facetime ผ่าน 3G/EDGE โดยไม่ต้องผ่าน Wifi ก็ทำได้ โอ้ นี่แหละ มนต์เสน่ของ Jailbreak
6 เหตุผล iPad ควร Jailbreak 6 เหตุผล iPad ควร Jailbreak
5. หากคุณรักของฟรี ต้องโดน
ก็ต้องยอมรับว่ากระเป๋าสตางค์ของเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนกว่าจะซื้อ iPhone มาได้ ก็เก็บตังค์มานาน บางคนกว่าจะสอย iPad มาได้ก็ไม่ง่าย บางคนบริษัทให้มา จริงๆ ผมไม่ได้ว่า ว่าท่านไม่มีเงินซื้อ Apps นะ จริงๆ Apps มันราคาถูกมาก $0.99 บ้างก็ตก 30 บาทเองใครก็มี แต่คุณรู้ไหมว่า การซื้อนั้น ซื้อนี่ไปเรื่อยๆ เหมือนผมก็จ่ายเป็นหมื่นเหมือนกัน
แล้วไม่ต้องพูดถึงเกมส์ มันคือมนต์เสน่ของ iPhone, iPad, iPod แต่การยอมจ่ายเงินเพื่อเกมส์ แม้ มันช่างรู้สึกสิ้นเปลืองจริงๆในความรู้สึก โดยที่ไม่รู้ว่ามันสนุกหรือเปล่า หรือคนอื่นว่าดี เราจะว่าดีไหม แต่ถ้าพูดในความจริง เราเองก็ซื้อเกมส์ที่ Pantip กันแผ่นนึงเป็นร้อย ก็ตกกว่า $3 แต่มันก็ต่างกันเน๋อ นั้นมันเกมส์จริงจัง เล่นกันเป็นหลายเดือน หรือเป็นปีกว่าจะจบ เกมส์บน iOS มันชิวๆ สิวๆ เล่นแป๊บๆ จะซื้อก็รู้สึก สะดุงนิดๆ
ก็ไม่สนับสนุน แต่มันก็ Feel Good 5555

6. ปลดตัวเองจากโซ่ตรวน (เหมือนคำว่า JailBreak)
โอ้ใช้คำแรง จริงๆ บางคนอาจจะมีเหตุผล สำหรับการใช้ iPad, iPhone, iPod อยู่ไม่มาก ก็อยากทำนั้นได้ อยากเปิด Word Excel เช็คเมล์ อยากได้โปรแกรมนั้นนี้ ก็รวมๆ ไม่เกิน 10 Program ก็ว่ากันไปนั้น แต่พอคุณใช้กันไปสักระยะ คุณก็จะรู้สึกเซงๆกับมัน ซะใจบ้างเล็กน้อย พอได้ Show กับคนไม่มี ออกแนวโรคจิต แต่ในความรู้สึกมันก็เซงๆ ไม่รู้จะเล่นอะไรกับมันดี เพราะมันหมดมุขล่ะ
พออยากเล่นอะไรเพิ่มเติม ก็นะต้องเสียตังค์ไปซื้อมา แก้เซงด้วยการกดซื้อ Apps 30 บาท 60 บาท ให้พี่ Job เขาได้เงินไป แต่การ Jailbreak คือการปลดโซ่ตรวนความเซง เพราะเวลาคุณนั่งว่างๆ คุณจะทำอะไร ก็ Download Apps มาลงเล่นๆ 55555 ลองเล่นเกมส์นั้น เกมส์นี้ ลองเล่น Apps นั้น Apps นี้ มันก็ปลดปล่อยศักยภาพของ iPhone, iPad ของเราไปได้ มากเลยทีเดียว เพราะบางอย่างเราก็ไม่รู้ว่ามันทำได้ แต่ก็ค้นพบนี่แหละ เราคงไม่กล้าลองเสียตังค์กับสิ่งที่เราไม่รู้จริงไหม ก็นี่แหละ คือหนทางที่ดี

แต่ผมก็มีข้อควรระวัง เพราะมันมีความเสี่ยงอยู่บ้าง ตามความชำนาญ ต้องใจถึงสักหน่อยในการทำ ปกติแล้วคนมี iPad Jailbreak หรือ iPod Jailbreak ก็ไม่ควร Jailbreak iPhone เนื่องจากความเสี่ยงด้านการ Lock เครือข่าย หรืออะไรก็ช่าง

http://hitech.sanook.com/6-เหตุผลที่ควร-jailbreak-941757.html

Thursday, September 22, 2011

3 เหตุผล iPad ไม่ควร Jailbreak

3 เหตุผล iPad ไม่ควร Jailbreak
3 เหตุผล iPad ไม่ควร Jailbreak จริงๆการ Jailbreak แม้ทางศาลสหรัฐอเมริกาจะออกมาตัดสินให้ Apple แพ้คดีไปว่าไม่ผิดกฎหมาย แต่นั้นเป็นเรื่องการ Jailbreak คนละเรื่องกับการใช้ Application เสียตังค์แบบฟรี แต่ Apple ก็ยังบอกว่าการ Jailbreak นั้นจะทำให้หมดประกัน

สำหรับคนที่ไม่ทราบว่า Jailbreak คืออะไร ต้องบอกก่อนว่า การ Jailbreak เป็นวิธีการ Hack ระบบของ iOS อย่างหนึ่ง .. จะว่าไปมันก็ไม่เชิง Hack ต้องบอกว่าปลด Lock

แต่จะว่าอย่างไรก็ช่าง เอาง่ายๆคือ ปกติแล้ว iOS ไม่ว่าบน iPhone , iPad, iPod เราไม่สามารถเห็น File System ต่างๆในเครื่องได้ นอกเสียจากสิ่งที่ทาง Apple ทำไว้ให้เราเห็นเช่น Folder ในโปรแกรม Photo หรือการ Transfer File VDO, Music ผ่าน iTunes

ดังนั้นการ Jailbreak เป็นการทำให้เราเห็น File Sytems ทั้งหมดของ iOS เป็นการเจาะเข้าไป ถามว่าเพื่ออะไร บางคนก็เรียกว่าการปลดปล่อยตัวเอง บางคนก็เรียกว่า แหกคุก จริงๆผมเข้าใจว่าศาลท่านว่าไม่ผิด เพราะมันคงเป็นสิทธิของเราเพราะเราซื้อเครื่องแล้ว เหมือนซื้อรถแล้วคนบอกว่่าคุณห้ามแต่งรถนะ ไม่งั้นประกันหมด มันก็คงแปลกๆ

มาดูเหตุผลว่าทำไมเราไม่ควร Jailbreak

1. ประกันหมด : นี่น่าจะนับเป็นเหตุผลแรกที่ทำให้คนกลัวที่สุด และเป็นไม้ตายของ Apple เลยทีเดียว
วันก่อนเพื่อนผมหิ้ว iPad มาจาก Japan แล้วปรากฎว่าเครื่องเสีย ดันไปเสียตรงช่องสาย Charge ซึ่งเอาไว้ต่อ iTunes ด้วย งานเข้าสิ เช็คไปเช็คมา คนรับเคลมบอกว่า บินไปเคลมได้ ส่งไปเคลมได้ แต่ต้องกลับมาใน Version Standard คือไม่ Jailbreak เอาล่ะสิ ถ้าต่อคอมไม่ได้ก็กลับตัวกลับใจเป็น Version ไม่ Jailbreak ไม่ได้ ซวยแล้วสิ แต่ยังดีเครื่องนี้ไม่ Jailbreak พอดี

แล้วถ้าลองนึกถึงเครื่องที่ Jailbreak สิครับ มันจะกลายเป็นที่กันรถไหลทันที คือไร้ค่ามากๆ ทำไรไม่ได้เลย เงิน 2 หมื่นเหลือ 0 บาท .. แม่เจ้า

2. ทำลายนักพัฒนา : มีโปรแกรมดีๆ มากมายใน iPhone , iPad แล้วปฎิเสธไม่ได้ว่า Apps iOS นั้นมากกว่า ดีกว่าด้วยเหตุที่ Apps ส่วนใหญ่เสียตังค์ แล้วคนพัฒนาได้ตังค์เยอะ บางบริษัท บางคน รวยด้วยการทำ Apps บน iPhone เลยทีเดียว ทำให้นักพัฒนาแห่กันมา

ดังนั้นลองคิดดูว่าเมื่อไรก็ตาม หาก Apple ไม่ปกป้องไม่ให้คน Jailbreak ขึ้นมา ก็คงขาด Apps ดีๆไป เหมือนเมืองไทยบ้านเราที่ไม่ค่อยมีโปรแกรมดีๆ เพราะเราใช้ Version Pantip กันจนเคยชิน นักพัฒนาเองก็ใช้ จนไม่กล้าพัฒนาอะไรออกมา

3. ความเสถียรภาพ : เมื่อเครื่องถูก hack เข้าไปโดน Unlock ซะแล้ว สิ่งที่คุณสามารถทำได้คือ คุณสามารถลงโปรแกรมที่ Apple ไม่อนุญาตให้ทำได้มากมาย เช่น Proswitcher ที่ช่วยให้เครื่อง iOS 3 มี Multitask หรือ มีโปรแรมที่ช่วยให้คุณรัน Flash บน iOS ได้ หรือ โปรแกรมช่วยขยาย Apps iPhone ใน iPad แบบไม่แตกลายงา และยังมีอีกมากมาย แถมยัง Apps ที่ช่วยกระจาย iPhone, iPad เองให้คนอื่นมา Share internet จากมันด้วย

ความสามารถมากมาย แลกมาด้วยความไม่เสถียรของเครื่อง เพราะมันไม่ผ่าน Apple อาจจะส่งผลให้เครื่องค้าง เครื่อง Reset ได้บ่อยครั้ง

3 เหตุผล iPad ไม่ควร Jailbreak
http://hitech.sanook.com/3-เหตุผล-ที่ไม่ควร-jailbreak-941758.html

Sunday, September 18, 2011

เปรียบเทียบ iPad 2 กับ Samsung Galaxy tab

เปรียบเทียบ iPad 2 กับ Samsung Galaxy tab เปรียบเทียบ iPad 2 กับ Samsung Galaxy tab
เปรียบเทียบ iPad 2 กับ Samsung Galaxy tab โดย Samsung เปิดตัว Samsung Galaxy Tab 10.1 ในงาน MWC 2011 ด้วยกล้องดิจิตอลด้านหลังตัวเครื่อง ความละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิกเซล และระบบประมวลผลแบบ Dual-Core ความเร็ว 1GHz ซึ่งแน่นอนว่า มีหลายคนที่คาดเดา ราคาเปิดตัว ของ Samsung Galaxy Tab 10.1 คงจะต้องไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท อย่างแน่นอน แต่หลังจากที่ Samsung นำ Samsung Galaxy Tab 10.1 ไปปรับปรุงใหม่ เมื่อทราบว่า iPad 2 มีขนาดที่บางกว่า และ ราคาเปิดตัว ที่ถูกเกินคาด Samsung Galaxy Tab 10.1 เวอร์ชั่นใหม่นี้ อาจจะทำให้หลายๆ คนผิดหวัง เนื่องจากกล้องดิจิตอลนั้น เหลือความละเอียดเพียงแค่ 3 ล้านพิกเซล และมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ด้านหลังตัวเครื่องที่ไม่หรูหราเหมือนแต่ก่อน อย่างไรก็ดี ด้วยขนาดตัวเครื่องที่บางกว่า iPad 2 และน้ำหนักที่เบากว่า อาจจะพอทำให้ผู้ที่ตั้งใจจะซื้อ แอนดรอยด์แท็บเล็ต อย่าง Samsung Galaxy Tab 10.1 อยู่แล้ว หันกลับมาตัดสินใจอีกครั้งก็เป็นได้

สำหรับ Samsung Galaxy Tab 8.9 นั้น เพิ่ง เปิดตัว ไปเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งจุดที่แตกต่างไปจากSamsung Galaxy Tab 10.1 นั้น ก็คือ ขนาดหน้าจอที่เล็กกว่า, น้ำหนักเบากว่า, บลูทูธ เป็นเวอร์ชั่น 3.0 และ ราคาเปิดตัว ที่ถูกกว่าเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ สเปค อื่นๆ ไม่แตกต่างกันมากนัก ซึ่งข้อตัดสินสำหรับผู้ที่จะตัดสินใจเลือก Samsung Galaxy Tab 2 รุ่นนี้ ก็คงจะเป็นเรื่องของ ขนาด เสียมากกว่า

เราลองมาวิเคราะห์กันครับว่า ระหว่าง Apple iPad 2, Samsung Galaxy Tab 10.1 และ Samsung Galaxy Tab 8.9 นั้น รุ่นไหนจะเด่น ตรงใจผู้ใช้มากที่สุด อย่างไรก็ดี บทวิเคราะห์นี้ เป็นเพียงการเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างในบางจุดเท่านั้น ซึ่งรุ่นไหนจะเด่นโดนใจมากที่สุด ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของผู้ซื้อเป็นสำคัญครับ

เปรียบเทียบ iPad 2 กับ Samsung Galaxy tab

เปรียบเทียบ iPad 2 กับ Samsung Galaxy tab
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=09-2010&date=23&group=42&gblog=39

Thursday, September 15, 2011

ดีไซน์ iPhone 5 คล้าย iPhone 4

นักวิเคราะห์เผย ดีไซน์ของ iPhone 5 ยังไงก็คล้าย iPhone 4 Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ท่านหนึ่ง ได้เปิดเผยกับเว็บไซต์ MacRumors ว่า Apple มีตารางที่จะส่ง iOS 5 เวอร์ชั่น GM หรือ Golden Master เพื่อที่จะนำไปอัพเดทลง iPhone และ iPod Touch เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ โดยช่วงเวลานั้น อยู่ระหว่างวันที่ 23-30 กันยายนนี้ ซึ่งการอัพเดทเป็น iOS 5 ในครั้งนี้ น่าจะรวมถึง ไอโฟน 5 (iPhone 5) ด้วย จึงทำให้การเปิดตัว ไอโฟน 5 (iPhone 5) นั้น จะอยู่ในช่วงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งก็จะเป็นช่วงระยะเวลาที่พอดีกับข่าวจากสำนักต่างๆ ที่ออกมาก่อนหน้านั้นครับ

ส่วนการออกแบบ ไอโฟน 5 (iPhone 5) นั้น Ming-Chi Kuo ได้เปิดเผยว่า ณ ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่า ไอโฟน 5 (iPhone 5) จะถูกดีไซน์ให้เปลี่ยนไปจากเดิมตามข่าวลือ แต่ Ming-Chi Kuo กลับมุ่งไปที่ iPhone โค้ดเนม N94 ที่มีช่วงหนึ่งได้กลายเป็นข่าวดัง เนื่องจากถูกอ้างว่า N94 นั้น คือ ต้นแบบของ iPhone 4S ครับ ซึ่ง Ming-Chi Kuo ก็ยังปักใจเชื่อว่า ยังไง ไอโฟน 5 (iPhone 5) ก็ต้องมีดีไซน์ที่คล้ายกับ iPhone 4 อย่างแน่นอน

ดีไซน์ iPhone 5 คล้าย iPhone 4 อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Ming-Chi Kuo จะมีหลักฐานที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ แต่หลายครั้งแล้วที่เราได้เห็นภาพหลุดของ ไอโฟน 5 (iPhone 5) ออกมา ไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์ หรือแม้แต่เคสจากโรงงานในจีน ต่างก็ชี้ให้เห็นว่า ยังไง ไอโฟน 5 (iPhone 5) ก็มีดีไซน์ที่แตกต่างจาก iPhone 4 มากทีเดียวครับ
ดีไซน์ iPhone 5 คล้าย iPhone 4 ดีไซน์ iPhone 5 คล้าย iPhone 4 ดีไซน์ iPhone 5 คล้าย iPhone 4 ดีไซน์ iPhone 5 คล้าย iPhone 4
ถ้าหาก ไอโฟน 5 (iPhone 5) มีลักษณะคล้ายกับเครื่องต้นแบบอย่าง N94 ตามที่ Ming-Chi Kuo กล่าวไว้ล่ะก็ สเปคของ ไอโฟน 5 (iPhone 5) ก็น่าจะเป็นดังนี้ครับ

- หน่วยความจำ RAM ขนาด 512MB และใช้ Apple A5 Chipset เช่นเดียวกับ iPad 2
- กล้องจะมีความหนาเท่าๆ กับ iPhone 4 อย่างที่ทราบๆ กันครับว่า ความหนาของตัวกล้องนั้น สามารถกำหนดความหนาของตัวเครื่องได้ ถ้าหากเปลี่ยนกล้องแบบใหม่ ตัวเครื่องของ iPhone 5 ก็คงจะบางกว่า iPhone 4 อย่างแน่นอน
- หน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว เท่า iPhone 4
- ตัวเครื่องด้านหน้าและหลัง จะเป็นกรอบกระจกเช่นเดียวกับ iPhone 4

ข้อมูลด้านบนยังไม่ใช่สเปคที่แท้จริงของ ไอโฟน 5 (iPhone 5) นะครับ เป็นเพียงสเปคที่นักวิเคราะห์ Ming-Chi Kuo คาดการณ์ไว้เท่านั้นครับ

ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ : www.techmoblog.com
http://hitech.sanook.com/นักวิเคราะห์เผย-ดีไซน์ของ-iphone-5-ยังไงก็คล้าย-iphone-4-941558.html

Monday, September 12, 2011

เปรียบเทียบ iPhone กับ iPod

iPhone 399 เหรียญ (ประมาณ 15,960 บาท) คงไม่ต้องพูดถึงอุปกรณ์ไฮเทคชิ้นนี้ ทำได้ทุกอย่าง ถ้าเป็นรถยนต์ก็คือตัวท้อป โทรศัพท์ได้ ฟังเพลง ดูหนัง Youtube Map multi-touch ฟังก์ชั่นมากที่สุด ขนาดใหญ่ที่สุด และแพงที่สุดด้วย กล่าวถึงจุดเด่นกันไปแล้ว ก็จะกล่าวถึงจุดด้อยกันบ้าง เช่น ต้องติดสัญญาเครือข่ายก่อนซื้อมาใช้งาน หูฟังเลือกใช้แบบมาตรฐานไม่ได้ แต่ก็จะสร้างความสะดวกก็คือไม่ต้องพกพาอุปกรณ์หลายชิ้น ถ้าซื้อ iPod ก็ต้องพกมือถือกันวุ่นวาย

iPod shuffle (New Color) 79 เหรียญ (ประมาณ 3,160 บาท)
Concept ของ iPod shuffle ก็คือเครื่องเล่น MP3 ที่ทำมาให้ใช้งานได้ง่ายดายที่สุดในโลก ก็เลยไม่มีอะไรนอกจากปุ่มกดเล่นเพลง ปุ่มสุ่มเพลง และช่องสำหรับใส่หูฟัง ไม่มีจอ และราคาถูกที่สุดในครอบครัว iPod ความโดดเด่นของ Shuffle ก็คือ ความที่เป็น iPod ที่ให้เสียงเที่ยงตรง สะอาด กำลังขับดี ทั้งๆ ที่ตัวกระจิ๋วเดียว มาพร้อมโทนสีที่ Soft ลงเล็กน้อย ที่น่ารักที่สุดก็คือ เป็นตัวหนีบในตัวสามารถที่จะหนีบไว้ตรงไหนก็ได้ของร่างกาย (อย่าคิดมาก ว่าหนีบตรงไหน 555+)

เปรียบเทียบ iPhone กับ iPod เปรียบเทียบ iPhone กับ iPod

iPod nano (New Color) 149 เหรียญ (ประมาณ 5,960 บาท) ผมเคยฝันไม่ดีว่า iPod nano จะมีหน้าตาเป็นแบบนี้ (จริงๆ แอบเช็คข่าวที่เมืองนอก แต่ไม่นึกว่าจะจริง) เอาเถอะยังไง Apple ก็ได้ออกแบบมาแล้ว แม้ว่าจะออกขี้เหร่เล็กน้อย แต่ก็ดีกว่า shuffle ก็คือ มีจอ และมี Click wheel ซึ่งทำให้เลือกเพลงได้สะดวกกว่า หน่วยความจำแบบ Flash และหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น แบ่งเมนูออกเป็น 2 ส่วนแปลกๆ หน่อย แต่ก็ไม่รู้ว่าเสียงจะก๋องแก๋งเหมือนเดิมหรือไม่ (ตอน 5.5g นั้นเสียงไม่ดีมากนัก) ด้วยความที่เครื่องเล็ก ก็อาจจะทำให้ nano พกพาได้สะดวกมากยิ่งขึ้นก็เป็นได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับสีใหม่ด้วยที่โทน Soft ลงเช่นกัน ไม่ฉูดฉาดเหมือนเดิมแล้ว เก๋ไปอีกแบบ

iPod Classic (iPod Video เดิม) 249 เหรียญ (ประมาณ 9,960 บาท) สำหรับ iPod classic นั้นเป็น iPod ที่มี Concept มาตั้งแต่ดั้งเดิมว่า จะต้องมีหน่วยความจำมากๆ ตัวแรกที่วางจำหน่ายก็คือ 10 GB แต่ในปัจจุบัน iPod classic มาพร้อมหน่วยความจำมากถึง 160 GB แต่หน่วยความจำของ iPod classic นั้นเป็นแบบ ฮาร์ดดิสก์ หมายความว่าถ้าหากทำเครื่องตก ก็จะเหมือนกับทำฮาดดิสก์เครื่องคอมพิวเตอร์ตกพื้น ความรู้สึกเดียวกันก็คือ เจ๊งอย่างแน่นอน แต่ด้วยราคาที่อยู่ตรงกลางของครอบครัว iPod และสำหรับคนที่ชอบความจุสูงๆ มีความระมัดระวังในการใช้ (จริงๆ ทุกรุ่นก็ควรระมัดระวังทั้งนั้นแหละ) iPod classic ก็จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ใช้งานที่ขี้เกียจลงเพลงบ่อยๆ นั่นเอง

iPod Touch (iPhone ตัดฟังก์ชั่นโทรศัพท์ออก) 299 เหรียญ (ประมาณ 11,960 บาท) สำหรับ ผู้อ่านที่ชอบ iPhone รัก iPhone รอ iPhone งานนี้จะต้องมีแกว่งๆ เพราะมี iPhone ที่โทรออกไม่ได้มาวางจำหน่ายกันด้วย Apple ตั้งชื่อว่า iPod Touch ซึ่งนั่นก็หมายความว่าสามารถที่จะใช้หน้าจอสัมผัสได้ ใช้ multi-touch ได้ ดูวีดีโอ Wide screen ได้ เล่นเน็ตผ่าน Wi-fi ได้ ดูรูปภาพได้ แต่โทรศัพท์ไม่ได้เท่านั้น หลายคนกังวลว่า iPod Touch นั้นจะเหมือนกับ iPhone ตรงที่จะต้องใช้แจ๊คหูฟังชนิดพิเศษหรือไม่ ไม่ต้องกังวลครับใช้หูฟังแบบธรรมดา หน่วยความจำแบบ Flash Memory คงทนกว่าแบบฮาดดิสก์

http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=pedcomic&date=07-09-2007&group=2&gblog=12

Thursday, September 8, 2011

Top 10 Luxury iPhone Cases

Top 10 Luxury iPhone Cases. Why not spend some money to protect your precious iPhone? These luxury iPhone cases are made from carbon fiber, Tuscan leather, mahogany, ostrich skin, alligator skin and even gold embellished with diamonds and have prices ranging from $180 to over $100,000.

10. Ultra Case Luxury Edition Royal Crown – $179.99 (Top 10 Luxury iPhone Cases)
The enormous, heart-shaped artificial crystal affixed to the back is this case’s claim to cost. It also features a stunning array of Swarovski crystals topped with a jeweled crown that will let everyone around you know who’s in charge. This case isn’t for anyone who values a slim case, however, as the decorations make the encased phone at least half again as deep as the phone itself.
Top 10 Luxury iPhone Cases Top 10 Luxury iPhone Cases
9. SGP Ott-Paint Ultra Thin Limited Edition Gariz Case – $249.99 (Top 10 Luxury iPhone Cases)
This case, created jointly by Gariz Design and United SGP Corporation, is beautifully painted with Ott, a special chemical paint that is not only flame retardant and heat resistant but also waterproof, mothproof, antiseptic and antibacterial. The case comes with a leather sleeve and protectors for both the screen and Apple logo. If you want one, though, you’d better hurry—only 50 of these premium, individually numbered cases will be produced.

8. Swarovski Wildcat $299.99 (Top 10 Luxury iPhone Cases)
Featuring Swarovski crystals arranged by hand in a leopard-spot pattern, each of these luxury iPhone cases is completely unique. The easily snapped-on case is supposed to be as protective as it is aesthetically pleasing, but Ultra Case doesn’t list the materials used to create the “crystal hard case.”
Top 10 Luxury iPhone Cases Top 10 Luxury iPhone Cases
7. Orbino Strada up to $319 (Top 10 Luxury iPhone Cases)
There are other iPhone cases out there made of the “finest” Italian leather, but what makes the Strada unique is its patented belt clip/pedestal. Not only is this belt clip removable, it’s also made of palladium metal and it can even be used to prop up your iPhone so you can watch videos at your desk. After all, you probably don’t have any other viewing apparatus there. The Strada also features a screen protector and connector access. Oh, it’s also hand-stitched. That automatically makes it at least twice as good. The Strada starts at $99, but you can pay more to get one made from one of a variety of gentle woodland creatures—from ostriches ($249) to crocodiles ($319).

6. GlitterRing iPhone Cover – $379-$399 (Top 10 Luxury iPhone Cases)
GlitterRing’s one- and two-piece iPhone cases come in a variety of designs. Whether you’re partial to “Puffy Pink” or “Golden Swirl,” you can get it slathered on your iPhone 3G or 3GS in the form of over 1,000 genuine Swarovski crystals. In case of damage, GlitterRing’s premium cases even include a repair kit with extra crystals.
Top 10 Luxury iPhone Cases Top 10 Luxury iPhone Cases
5. iWood + Ryou – $454 (Top 10 Luxury iPhone Cases)
Miniot’s iWood case has been upgraded at the hands of Ryou Co., Ltd. and Urushi lacquerer Seiichiro Fujino. The artist uses Chinese raw lacquer, clear lacquer, pigment and silver foil to turn one of Miniot’s already posh cherry iWood casts into true works of art.

4. Softbank BB Samurai iPhone cases $1,000 (Top 10 Luxury iPhone Cases)
Softbank BB is bringing the aesthetic appeal of traditional Japanese lacquerware to your iPhone. These five cases commemorate five famous samurai from Japan’s storied history—(from left to right) conquerer Oda Nobunaga; one-eyed warlord Date Masamune; tactician and “Dragon of Echigo,” Uesagi Kenshin; famed lover Naoe Kanetsugu and triumphant underdog Yukimura Sanada. The cases were created in collaboration with 350-year-old lacquerware company Zohiko and each design comes with a different cloth pouch.
Top 10 Luxury iPhone Cases Top 10 Luxury iPhone Cases
3. Louis Vuitton iPhone cases up to $1,120 (Top 10 Luxury iPhone Cases)
Louis Vuitton is now offering four different flavors of iPhone case: Monogram Canvas, Taiga Leather, Epi Leather and Alligator Skin. Everyone knows adding the LV logo to something makes it practically priceless. But these prices range from $225 for the Monogram Canvas case to $1120 for the Alligator Skin case. Unfortunately, these costly cases commit the cardinal sin of covering the phone’s screen.

2. Diamond iPhone Case $20,000 (Top 10 Luxury iPhone Cases)
If you think buying a case worth fifty times the phone it carries makes perfect sense, then this is the case for you. With its 42 VVS1 diamonds (3.5 carats), it’s the most bling for your buck. That’s only $5,714 per carat. Great deal, huh?
Top 10 Luxury iPhone Cases Top 10 Luxury iPhone Cases
1. GnG “Golden Delicious” $100,000+ (Top 10 Luxury iPhone Cases)
What is the most expensive iPhone case in the world? This extravagant case is the culmination of twelve months of development. The case features a 1mm subshell made with 140 grams of 18k gold, a carbon fiber inlay and about 200 diamonds. The outer frame features another 400 diamonds in the logo, which may be customized. As a customizable luxury item, however, prices may vary widely based on the materials needed.

http://most-expensive.net/luxury-iphone-cases

Tuesday, September 6, 2011

วิธีเลือกซื้อ ไอโฟน มือสอง iPhone Secondhand

วิธีเลือกซื้อ ไอโฟน มือสอง iPhone Secondhand วิธีเลือกซื้อ ไอโฟน มือสอง iPhone Secondhand
วิธีเลือกซื้อ ไอโฟน มือสอง iPhone Secondhand ข้อสังเกตก่อนจ่ายเงินให้กับคนขายไป ลองมาสังเกตตามนี้

- เครื่อง Refurbish เป็นเครื่องที่กรณีลูกค้าซื้อไปแล้วมีปัญหา แล้วเอามาเครม แอปเปิ้ลก็เอาเครื่องใหม่ให้ทันที แต่จะสังเกตได้ว่าเลขอีมี่จะไม่ตรงกับกล่อง เครื่องแบบนี้ตู้มักจะเอามาขายในราคาที่เหมือนของใหม่ แย่เลยนะเนี้ย

- เช็คเซนเซอร์หมุนจอ จุดนี้ที่พลาดหลายคนแล้วเจอเยอะในเครื่องมือสองด้วยครับ ไปร้านตู้่ 5 เครื่อง เจอเสียซะ 3 คือเซนเซอร์มันเสีย จอจะไม่หมุน

- ระบบโมชั่น วิธีตรวจสอบก็คือเปิด iPod ขึ้นมาครับแล้วลองเปิดเพลงฟังดู ลองเขย่าดูครับ ว่ามันเปลี่ยนเพลงให้รึเปล่า ปกติแล้วแค่เขย่า ซ้ายขวาเบาๆ ไม่กี่ทีมันก็เปลี่ยนให้แล้วครับ

- ปุ่ม HOME ตรงนี้จะเสียได้ง่ายที่สุดครับ ไหนๆเราจะซื้ิอแล้วก็ลองกดๆ ดู ว่ามันยังทำงานได้อย่างที่มันควรจะเป็นรึเปล่า กดแล้วมันกลับไปหน้าแรกรึเปล่า ลองดูครับ

- กรอบแตกมีรอยร้าว ลองสังเกตดูแถวๆ ที่ชาร์ตครับ ว่ามีรอยร้าวรึเปล่า ยิ่งเครื่องที่สีดำนะครับ ยิ่งดูยาก แถมถ้าติดกับรอยแบบ Invisible มายิ่งดูยากเข้าไปอีก

- เช็คปุ่มควบคุมระบบทุกอย่าง เช่นหรี่เสียงปรับเสียง มันควรจะใช้งานได้ตามปกติ อย่าไปเกรงใจครับเพราะเราเป็นคนเอาเงินไปให้เค้า

- เช็คจอว่าระบบ Touch Screen ยังดีอยู่มั้ย ลองจิ้มๆ อยู่ทุกจุดทุกตารางเซ็นติเมตรบนหน้าจอ ลองใช้สองนิ้ว (ทดสอบระบบ Multi-touch) แหก โน่น แหกนี่ ดูว่ามันจะซูมได้เหมือนที่โฆษณารึเปล่า

วิธีเลือกซื้อ ไอโฟน มือสอง iPhone Secondhand อันนี้เป็นวิธีสังเกตของผมคร่าวๆ นะครับ ก็ลองนำไปสังเกตดูว่าเพื่อนๆ ไปหาซื้อเครื่องมือสอง จะได้ไม่มานั่งเจ็บช้ำใจ ว่าโดนย้อมแมวมา

http://www.pokpitch.com/2009/how-to-buy-iphone-secondhand

Sunday, September 4, 2011

Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 คู่แข่ง iPod Touch 5G

Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 คู่แข่ง iPod Touch 5G
www.techxcite.com/2010/tag/Samsung
iOS: iPod Touch 5G อยู่เฉยได้ไหมหลัง Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 เปิดตัวทางการแล้ว! ... iPod Touch นั่นเอง ขณะเดียวกันภายในเครื่องของ Samsung Galaxy S ..... มาแบบกลายๆแล้วว่าทางฟากฝั่งคู่แข่งโดยตรงอย่างระบบปฏิบัติการ Android ...

Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 คู่แข่ง iPod Touch 5G ดูท่าว่าศึกใหญ่ในวงการเครื่องเล่นเพื่อความบันเทิงแบบพกพาหรือ Portable Media Player จะกลับมาทวีความเข้มข้นอีกครั้งหลังจากที่ทั้ง 2 ค่ายผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Apple และ Samsung มัวแต่ไปตีกันในฝั่งสมาร์ตโฟน (iPhone 5 vs. Samsung Galaxy S II) และแทบเลต (iPad 2 vs. Samsung Galaxy Tab 10.1) อยู่เสียนานสองนาน หลังจากที่ล่าสุด Samsung ได้ประกาศเปิดตัว Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 ออกมาท้าชน iPod Touch 5G อย่างเต็มรูปแบบแล้ว
Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 คู่แข่ง iPod Touch 5G Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 คู่แข่ง iPod Touch 5G
สำหรับดีไซน์ภายนอกของ Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 จะหันมาเลือกใช้งานหน้าจอ LCD ขนาด 3.65 นิ้วแทนแบบ AMOLED อย่างที่เห็นกันในรุ่น Wi-Fi 4.0 และ 5.0 โดยตัวเครื่องจะยังใช้งานปุ่ม Home ตรงกลางแบบเดิมคล้ายๆกับใน iPod Touch นั่นเอง

ขณะเดียวกันภายในเครื่องของ Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 จะมาพร้อมกับซีพียูแบบ Single Core ความเร็ว 1GHz, กล้องหน้า VGA, กล้องหลัง 3 ล้านพิกเซล, ระบบปฏิบัติการ Android 2.3 Gingerbread พร้อม TouchWiz UI รวมถึงหน่วยความจำภายในเครื่องที่ 8GB และ 16GB ที่ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มเติมได้ผ่าน microSD Card ได้อีกด้วย
Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 คู่แข่ง iPod Touch 5G Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 คู่แข่ง iPod Touch 5G
ในส่วนของกำหนดการวางจำหน่าย Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 จะอยู่ในเดือนตุลาคมนี้ด้วยราคาประมาณ $242 (7,260 บาท) สำหรับ Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 รุ่นความจุ 8GB และ $274 (8,220 บาท) สำหรับ Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 รุ่นความจุ 16GB ตามลำดับ

ขณะเดียวกันสำหรับ iPod Touch 5G จาก Apple นั้นก็น่าที่จะได้รับการเปิดตัวในช่วงเวลาใกล้เคียงกันโดยอาจจะมาพร้อมกับซี พียูแบบ Dual Core เหมือนใน iPad 2, หน่วยความจำภายใน 128GB และรุ่นสีขาวให้เลือกซื้อด้วย

บทความโดย: ekk TechXcite ที่มา: samsung
http://hitech.sanook.com/samsung-galaxy-s-wi-fi-3.6-เปิดตัวทางการแล้ว-941113.html

Saturday, September 3, 2011

iPhone Smart Keyboard World's thinese Physical Keyboard for iPhone

iPhone Smart Keyboard World's thinese Physical Keyboard for iPhone iPhone Smart Keyboard World's thinese Physical Keyboard for iPhone
iPhone Smart Keyboard World's thinese Physical Keyboard for iPhone. Virtual keyboard is the way to enable typing on a mobile phone while preserving a large display for browsing. The iPhone which released in 2007, ushered in virtual keyboards as the default for smartphones. Since then, physical keyboards are fading out (may be not for those Blackberry die-hard users). In China, a physical keyboard is still essential to the user experience of any mobile device. A poorly designed virtual keyboard can influence user experience when it comes to typing. SmartKeyboard is a conceptual design aimed at those users who want a light-weight physical keyboard on their iPhone. Click in to watch the concept video, we definitely think Apple should have produced this!

http://micgadget.com/15036/a-smartkeyboard-concept-for-your-iphone-video/



SmartKeyboard เป็นผลงานการออกแบบของ Jing Yang จาก eico Motion Lab ในประเทศจีน โดยใช้วิธีง่ายๆในการเพิ่มคีย์บอร์ดให้กับไอโฟนด้วยการใช้แถบแม่เหล็กแบบ เดียวกับ Smart Covers ของไอแพด 2 ใช้หลักการเดียวกันเป๊ะๆเลยค่ะ โดยการติด SmartKeyboard ไว้กับของโลหะด้านล่างของไอโฟน จะถอดเข้าถอดออกก็ทำได้ง่าย เมื่อไม่ใช้งานก็สามารถพับเป็นขาตั้งน้องไอก็ได้ด้วยนะ แถมยังออกแบบมาให้มีหลากหลายสีสันน่าใช้งาน เรียกว่ามาพร้อมทั้งแฟชั่นและฟังก์ชั่นเลย เห็นแล้วก็อยากให้ทำออกมาจริงๆนะ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้มันยังเป็นแค่คอนเซ็ปการออกแบบอยู่่

http://dailygizmo.tv/2011/09/02/สมาร์ทคีย์บอร์ดสำหรับไ/